เป็นกลยุทธ์ที่น่าสนใจและมีประสิทธิภาพ ลองพิจารณาวิธีการตามตัวอย่างดังนี้

1. Trend line เครื่องมือพื้นฐานในการระบุทิศทางราคา
   วาด Trend line บนชาร์ตเพื่อกำหนดแนวโน้มราคา ตลาดเป็นแนวโน้มขาขึ้น, ขาลง หรือ Sideway
2. MACD ตัวบ่งชี้ทางเทคนิคที่แสดงแรงผลักดันของแนวโน้ม
   เมื่อเส้น MACD ตัดข้ามเส้นสัญญาณ อาจบ่งบอกสัญญาณซื้อหรือขายได้
3. Confluence ยืนยันสองเหตุผล สองเครื่องมือ ประสานการใช้สองเครื่องมือเข้าด้วยกัน เช่น
   3.1 เปิดคำสั่งซื้อ เมื่อราคาสัมผัส Trend line ขาขึ้น และ MACD ให้สัญญาณซื้อ หรือ
   3.2 เปิดคำสั่งขาย เมื่อราคาหลุด Trend line ขาลง และ MACD ให้สัญญาณขายด้วย
4. เพิ่มเหตุผลที่ 3 เพื่อหาจุดเข้าที่ดีขึ้นโดยใช้ Stochastic หรือ RSI เป็นเครื่องมือเสริม
   เพื่อระบุสภาวะซื้อ/ขายที่มากเกินไปด้วยก็เป็นประโยชน์
5. กำหนด SL จุดตัดขาดทุน/กำไร ที่เหมาะสม
   อาจวางตามระดับแนวรับแนวต้าน วางตามโครงสร้างตลาด วางใต้เส้น Trend line หรือตามอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทน Risk Reward Ratio (Risk per Trade)
6. ทดสอบกลยุทธ์บนบัญชีจำลอง/Demo หรือ Back test ประวัติย้อนหลังก่อน เพื่อปรับปรุงกลยุทธ์ให้เหมาะสมกับสไตล์การเทรดของคุณ

คำเตือน

• อย่าทำกลยุทธแบบเป๊ะกับตลาดจนเกินไป เพราะตลาดมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ สิ่งสำคัญที่สุดคือคุมความเสี่ยงให้ได้
• อาจใช้การจำลอง Monte Carlo ทดสอบกลยุทธ เพื่อให้ได้ค่าพารามิเตอร์ที่เหมาะสม

#นักแปลระบบเทรด HonyakuTrader.com